7 สิ่งที่ Galaxy S7 ทำได้ แต่ iPhone 6s ทำไม่ได้....

บทความนี้ก็ยังอยู่กันในเรื่องของ Galaxy S7 ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปไม่นานนี้ อย่างที่เรา ๆ ได้รู้กัน แต่ก็มีอีกหลายคนเห็นว่ามันมีความสามารถในหลาย ๆ อย่างที่ iPhone 6S ทำไม่ได้ โดยที่ผ่านมาซัมซุงและแอปเปิ้ลต่างก็ได้ทำการต่อสู้กันในเรื่องของการพัฒนาความสามารถของโทรศัพท์ของตนให้สามารถตอบสนองผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด แต่ล่าสุดทางซัมซุงก็ได้ทำการแก้ไขจุดอ่อนที่ได้เคยมีมาให้ Galaxy S6 และเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เข้ามาให้ผู้ใช้งานได้เป็นทางเลือกอีกทางที่ไม่สามารถหาได้ใน iPhone 6s เรามาดูกันดีกว่าว่ามันมีความสามารถอะไรบ้าง

1. Waterproof Design


ข้อแรกคือในเรื่องของการกันน้ำ ตัว Galaxy S7 เองนั้นสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร และสามารถอยู่ได้ถึง 30 นาที แต่โดยไม่ใช้การเอาลงไปเล่นน้ำหรือติดตัวลงไปว่ายน้ำด้วยนะครับ แต่ถ้าคุณเผลอทำมันตกน้ำหรือเอามันไปเอาน้ำพร้อมกับคุณและเผลอทำตกอ่างอาบน้ำก็ไม่ต้องกังวลว่าโทรศัพท์จะพังแต่อย่างใด 

แต่อย่างไรก็ดีครับตัว iPhone 6s เองก็ได้มีการออกแบบออกมาเพื่อป้องกันความเสียหายจากการที่โทรศัพท์นั้นไปสัมผัสถูกกับน้ำเหมือนกัน แต่ว่าทางแอปเปิ้ลก็ไม่ได้โฆษณาออกมาเท่านั้นว่ามีความสามารถนี้อยู่ 

แต่ถึงจะกันน้ำได้แต่ตัว Galaxy S7 ก็ไม่สามารถใช้งานใต้น้ำได้ เพราะว่าหน้าจอที่ไวต่อการสัมผัสมากแค่โดนน้ำก็ขยับแล้ว (สามารถดูได้จากคลิป) แต่ก็สามารถป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับโทรศัพท์ได้ 



2. Fast Wireless Charging


อีกความสามารถที่มีอยู่ในโทรศัพท์แอนดรอยหลาย ๆ รุ่น แต่ที่ทำให้ Galaxy S7 พิเศษกว่าก็คือมันมีระบบ Fast Charging นี่แหล่ะที่น่าสนใจ เพราะมันสามารถชาร์จได้เร็วกว่าปกติถึง 1.5 เท่า จากระบบชาร์จแบบ wireless ธรรมดา เพียงแค่คุณเอาตัวเครื่องไปสัมผัสกับแท่นชาร์จที่รองรับ S7 

ซึ่งความสามารถนี้เองก็ไม่ได้ปรากฎอยู่ใน iPhone 6s แต่อย่างใด ถึงจะมีแฟนบอยหลาย ๆ คนของแอปเปิ้ลเองหวังให้มันมีอยู่ใน iPhone 6s แต่ก็ผิดหวังไปตาม ๆ กันเมื่อมีการเปิดตัว  ถึงมันจะเป็นแค่ความสามารถที่ไม่น่าจะมีอะไรสำคัญมากมาย แต่มันก็ดีกว่าเพียงแค่คุณหาที่ตั้งตัวชาร์จไวเรสไว้สักที่นึงและแค่นำโทรศัพท์ไปวางไว้ ดีกว่าที่จะต้องมานั้งหาสายชาร์จเวลาที่คุณกลับถึงบ้านแล้วรู้สึกอยากพักแต่ต้องหาสายชาร์จมาเสียบโทรศัพท์ก่อน 

3. Samsung Pay vs Apple Pay




ข้อที่ 3 ระบบการจ่ายเงินด้วยมือถือ หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วมันดีกว่ายังไง ในเมื่อแอปเปิ้ลก็ทำได้ผ่าน Apple Pay แต่ถ้าลงลึกในรายละเอียดก็ต่างกันมากครับ เพราะว่าในส่วนของ Apple Pay นั้นจะใช้ชำระค่าสินค้าได้ต้องเป็นเครื่องรับชำระต้องเป็นระบบที่รองรับ NFC หรือในบ้านเราก็เป็นพวก Visa Paywave นั่นแหล่ะครับ 

แต่ในส่วนของ Samsung ได้เปรียบกว่าในเรื่องนี้ ถ้าคนที่ตามข่าวก็จะรู้ว่าทางซัมซุงเองได้มีการซื้อกิจการของทาง LoopPay เข้ามาเป็นของตนแล้ว (รายละเอียด [Click]) ซึ่งเทคโนโลยีของทาง LoopPay นั้นทำให้ Samsung Pay นั้นสามารถใช้ระบบการชำระเงินนี้ผ่านเครื่องรับชำระปกติที่เป็นระบบ MST - Magnetic Secure Transmission ซึ่งความสามารถในการชำระแบบนี้มีอยู่แล้วใน Galaxy S6 / Note 5 โดยที่มันจะส่งสัญญาณแม่เหล็กจากเครื่องไปที่ตัวอ่านการ์ด (ตัวรับสัญญาณในเครื่องรูดบัตร) เท่านี้ก็สามารถชำระเงินได้เลยและมากกว่าเพราะว่าร้านค้าหลาย ๆ ร้านมีเจ้าเครืองนี้อยู่แล้วนั่นเอง 

ซึ่งที่ได้กล่าวมาข้าต้นทั้งหมดทาง Apple Pay ไม่สามารถใช้กับเครื่องรับชำระปกติได้นั้นก็หมายความว่าร้านค้าที่มีเครื่องที่จะรองรับนั้นมันมีน้อยนั้นเอง แต่ทาง LoopPay เองก็ได้มีอุปกรณ์เสริมที่เป็นเคสสำหรับใช้งานระบบนี้ออกมาขายให้กับคนที่ใช้ iPhone เช่นกัน 

4. Always on Display



อีกความสามารถนึงที่ซัมซุงเอามาจากแอนดรอยรุ่นอื่นมาใส่ใน S7 เพียงแค่กดปุ่มหน้าจอก็จะปรากฎข้อความสำคัญขึ้นมาโดยที่ไม่ต้องปลดล๊อคหน้าจอ โดยความสามารถนี้จะสามารถแสดงนาฬิกา, ปฏิทิน, รูปพื้นหลังหรือจะสามารถเลือกที่จะดูการแจ้งเตือนข้อความที่ยังไม่ได้อ่านได้ ซึ้งมันจะดีกับระยะการใช้งานของแบตฯ ที่จะทำให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น เพราะคุณไม่ต้องปลดล๊อคเพื่อที่จะดูข้อความต่าง ๆ นั่นเอง 

ซึ่งความสามารถนี้ก็ยังไม่มีใน iPhone 6s / 6s Plus แต่เราก็หวังว่าจะได้เห็นหลังจากการอัพเดทเฟิร์มแวร์ในครั้งต่อไปของทาง Apple

5. Add More Storage 




ข้อดีของเรื่องนี้ก็คือ คุณสามารถซื้อ S7 ในรุ่นต่ำสุดที่มีหน่วยความจำที่ 32 GB. ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของพื้นที่จัดเก็บ เพราะว่าคุณสามารถเพิ่มหน่วยความจำได้เพราะใน Galaxy S7 นั้นสามารถเพิ่มหน่วยความจำได้โดยใช่ micro sd card ซึ่งหายไปในรุ่นก่อนหน้านี้และได้รับเสียงบ่นเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญสามารถเพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 200 GB. แต่มันก็มีข้อจำกัดอยู่ก็คือมันสามารถเก็บข้อมูล แต่ยังไงหลัก ๆ ที่ใช้เราก็แค่เก็บรูปภาพและเพลงก็เท่านั้นอาจจะมีไฟล์งานบ้างก็แล้วแต่คน 

ซึ่งถ้ามองในส่วนของ iPhone ถ้าต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดเยอะก็จำเป็นต้องเลือกซื้อในรุ่นที่มีหน่วยความจำที่ค่อนข้างเยอะและก็ราคาก็จะสูงตามไปด้วย แต่สำหรับบางคนที่ขยันในการเคลียร์เครื่องประเด็นนี้ก็ไม่ซีเรียสเท่าไหร่


6. Smart Game Mode



เป็นอีกหนึงความสามารถที่คิดว่าน่าจะถูกในเกมส์เมอร์ เพราะใน S7 นั้นจะให้คุณได้สามารถปรับแต่การแจ้งเตือนว่าจะให้แจ้งหรือไม่แจ้งเตือนในขณะที่เล่นเกมส์, ให้คุณสามารถอัดหน้าจอเพื่อบันทึกการเล่นของคุณได้ (น่าจะเหมาะกับการแคสเกมส์เป็นอย่างยิ่ง) และยังมีออฟชั่นในการประหยัดแบตฯ ให้เลือกอีกด้วย โดยในโหมดนี้จะทำการลดการแสดงผลของกราฟิกลงเพื่อให้การใช้พลังงานน้อยลง และความสามารถนี้ก็ไม่ใช่แบบเดียวกันกับโหมด Low Power ที่ทางแอปเปิ้ลใส่มาใน iPhone 6s เมื่อปีที่แล้ว 

7. Always Know Who is Calling 


ความสามารถสุดท้ายคือคุณสามารถรู้ได้ว่าใครโทรเข้ามา ซึ่งความสามารถนี้มันก็มีอยู่แล้วใน iPhone แต่ถ้าจะให้จะให้รู้ว่าใครโทรเข้ามาคุณต้องมีรายชื่อคนเหล่านั้นอยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อของคุณ หรือไม่ก็ต้องมีเบอร์โทรของคนเหล่านั้นอยู่ในแอพ Mail 

แต่ตอนนี้ทางซัมซุงเองได้มีการจับมือกับ Whitepages เพื่อทำการแสดงผลว่าใครโทรเข้ามาหาคุณ โดยที่ไม่ต้องมีการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด ซึ่งจะเป็นการช่วยให้รู้ว่าใครที่โทรเข้ามาหาคุณ และยังมีการเตือนว่าสายที่โทรเข้ามานั้นเป็น Spam ไม่ ซึ่งก็จะช่วยในการตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับสายนั้นได้

เป็นอย่างไรบ้างครับกับความสามารถใหม่ที่ได้นำเสนอไป ทั้งหมดที่นำเสนอมานั้นเป็นสิ่งที่มีเพิ่มเติมเข้ามาใน Galaxy S7 และบางอย่างทางซัมซุงก็นำของเก่ามาพัฒนาให้ดีขึ้น ทั้งนี้ก็ต้องรอดูท่าทีของทางแอปเปิ้ลล่ะว่าในเดือนหน้าที่จะมีการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่นั้นจะมีอะไรออกมาให้กับทางสาวกได้ตื่นเต้นหรือไม่ 


ที่มา : บทความ : Rehub Tech
           รูปภาพ : techdocr
                         androidcenter 
                         d.ibtimes.co.uk
                         cdn.androidbeat
            วีดีโอ : Youtube /  GottaBeMobile / Whitepages 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม